ความแตกต่างของเหล็กแผ่นรีดร้อนกับเหล็กแผ่นรีดเย็นมีดังนี้
เหล็กแผ่นรีดร้อน ผลิตโดยกระบวนการรีดร้อนที่อุณหภูมิสูง มีความหนาตั้งแต่ 0.9 มม. ขึ้นไป มีผิวสีเทาดำเนื่องจากออกไซด์ของเหล็กที่เกิดขึ้นที่อุณหภูมิสูง เหล็กแผ่นรีดร้อนอยู่ในรูปม้วนหรือแผ่น สามารถนำไปใช้งานทั่วไปที่ไม่ต้องการคุณภาพผิวสูงนัก เช่น
- พับเป็นเหล็กสำหรับงานโครงสร้าง เช่นเหล็กรูปตัวซี (C-Channel)
- ม้วนทำท่อขนาดเล็ก (Pipe and tube)
- ม้วนทำท่อขนาดใหญ่ (Spiral pipe)
- ทำถังแก๊สหุงต้ม
- ทำตู้คอนเทนเนอร์
- ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือ
- ใช้ขึ้นรูปชิ้นส่วนช่วงล่างของรถยนต์ที่ต้องการความแข็งแรง
- ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเหล็กแผ่นรีดเย็น
เหล็กแผ่นรีดเย็น ผลิตโดยกระบวนการรีดเย็น ใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนเป็นวัตถุดิบ แล้วนำมารีดลดขนาดความหนาที่อุณหภูมิปกติ โดยทั่วไปจะมีความหนาตั้งแต่ 0.14 มม. ถึง 3 มม. มีผิวสวย มันวาว ใช้ในงานลักษณะที่ต้องการคุณภาพผิวสูงกว่าและความหนาต่ำกว่าเหล็กแผ่นรีดร้อน เช่น
- งานด้านยานยนต์
- เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์
- ทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง
- เป็นโลหะพื้นสำหรับผลิตเหล็กแผ่นเคลือบ เช่น เคลือบสังกะสีเพื่องานทำหลังคา เคลือบดีบุก
โดยนำม้วนเหล็กแผ่นรีดร้อนไปรีดเย็นต่อ จะได้เหล็กแผ่นที่มีผิวมันกว่า แต่ยังเหลือความเครียดในเนื้อเหล็กอยู่ทำให้มีความแข็งสูง ความสามารถในการยืดตัว (Elongation) ต่ำและยังมีความไม่สม่ำเสมอของคุณสมบัติเชิงกลในทิศทางต่างๆสูง จึงไม่เหมาะแก่การใช้งานขึ้นรูป ต้องเข้าสู่กระบวนการอบอ่อน (Annealing) เพื่อให้คลายความเครียดในเนื้อเหล็กลง โดยความหนาแทบไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อปรับปรุงความเรียบของคุณภาพผิว และขจัดการยืดตัว ณ จุดคราก (Yield point elongation) ทำให้สามารถนำไปใช้ขึ้นรูปได้ดีและสม่ำเสมอมากขึ้น
โดยทั้งผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนและผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดเย็น มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชั้นคุณภาพ (Grade) และประเภทการนำไปใช้งาน
|