พลสิทธิ นุชนาฎ : [email protected]
W.J. Technology Co., Ltd. : 3/4/2015 Internet of Things พลิกโฉมไอทีเปลี่ยนเศรษฐกิจโลกแห่งอนาคต
Internet of things หรือบางที่เรียกว่า Internet of Everything แปลตรงตัวแบบกำปั้นทุบดินว่า “อินเตอร์เน็ตสำหรับสิ่งของ” (บางแห่งเรียกว่า M2M ย่อมาจาก machine to machine) เช่น เราส่งอีเมล์หากัน หรือแชทคุยกัน ต้นทางและปลายทางคือ “คน” โดยมีคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ สายไฟ เบอร์ ฯลฯ ทำหน้าที่เป็นแค่ “ตัวกลาง” ในการส่งข้อมูลเท่านั้น
Internet of Things คือแนวคิดที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเหล่านี้ให้คุยกันได้เองโดยไม่ต้องผ่านคน โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงานเพื่อให้คนสะดวกสบายขึ้น โดยที่คนไม่ต้องเข้าไปยุ่งหรือสั่งการเลย
คำจำกัดความของ “อินเทล” ระบุว่า Internet of Things คือ การพัฒนาอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้
คำจำกัดความของ “อีเอ็มซี คอร์เปอเรชั่น” ระบุว่า “Internet of Things” ประกอบด้วยอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันหลายพันล้านขึ้นที่มีเครื่องมือวัด และเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ สร้างรายงานและรับข้อมูล เช่น เซ็นเซอร์ในรองเท้าที่เก็บข้อมูลความเร็วในการวิ่งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้
และผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีไร้สาย ผลิตภัณฑ์ที่ชาญฉลาด (Smart Product) และธุรกิจ Software-define มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มปริมาณข้อมูลให้กับโลกอินเทอร์เน็ตของสิ่งต่างๆ ทำให้ปริมาณข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าของทุกๆปี โดย IDC ระบุว่า อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตมีถึง 2 แสนล้านในปัจจุบัน และคาดว่าภายในปี 2020 จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้าน นับเป็น 10% ของข้อมูลโลก
“ ปรากฏการณ์ Internet of Things เป็นความ ท้าทายของธุรกิจในการบริหารจัดการ จัดเก็บ และปกป้องข้อมูลจำนวนมาก และหลากหลาย แนวโน้มข้อมูลและ Internet of Things จะขยายไป และด้วยเซ็นเซอร์เชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต”
ดังนั้นข้อมูลที่เกิดขึ้นมาจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในทุกมุมมองของธุรกิจการเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมเดิมไปสู่สิ่งใหม่ อาทิ ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ และอุปกรณ์จัดเก็บและสำรองข้อมูล การบริการสตอเรจแบบเดิม ๆ จะถูกยกระดับให้มีความยืดหยุ่นยิ่งขึ้น และรองรับ Digital Universe โดยมี Software-define เป็นตัวควบคุม
Connected Home เชื่อมบ้านเชื่อมโลก เป็นจริงในอีก 5 ปี
Connected Home นั้นเป็นเรื่องจริง ผู้ตอบแบบส่วนใหญ่ ร้อยละ 61% เชื่อว่า Connected Home ที่หมายถึง บ้านที่ใช้อุปกรณ์ในครัวเรือนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้อย่างลงตัว มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นความจริงในอีกห้าปี โดยผู้ตอบในประเทศจีนเห็นด้วยในเรื่องนี้มากที่สุดในโลก ร้อยละ 84% เจ้าของบ้านเป็นห่วงเรื่องการละเมิดข้อมูลของตน ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยังกังวนต่อการเขื่อมเครื่องอาจทำให้เกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ทั่วโลกร้อยละ 69 กล่าวว่าพวกเขามีทั้ง “กังวลมาก” หรือ “ค่อนข้างห่วง”
สรุปได้ว่า อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งสามารถให้ประโยชน์มากมายกับผู้ใช้ แต่ยังมีประเด็นด้านการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ และในการข้ามอุปสรรคเหล่านี้จะต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ที่มีความชาญฉลาด รวมถึงศักยภาพในการตรวจสอบตัวตนแบบระยะไกล การเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (วีพีเอ็น) ระหว่างผู้ใช้และเชื่อมต่อ รวมถึง การป้องกันภัยมัลแวร์ บ็อตเน็ตและแอพพลิเคชั่นด้านการรักษาความปลอดภัย ซึ่งควรนำมาใช้เป็นแบบบูรณาการโดยผ่านเครือข่ายคลาวด์
|